การใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติในการผ่าตัดปิดกะโหลกเทียม

ประสิทธิภาพในการใช้งานกะโหลกเทียมไทเทเนียมที่ผ่านการออกแบบด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์และวิศวกรรมในปัจจุบันนี้ เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ช่วยผลักดันให้การผ่าตัดปิดกะโหลกศีรษะ (Cranioplasty) ด้วยกะโหลกเทียมไทเทเนียมภายหลังจากการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ (Craniectomy) เพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงจนทำให้กะโหลกศีรษะเกิดการแตกหักเสียหาย หรือผู้ป่วยที่เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง อย่างเช่น มะเร็งกระดูก เนื้องอกในสมอง หรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมอง (Stroke) สามารถช่วยพลิกโฉมแนวทางในการรักษาทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจของผู้ป่วย เพื่อการช่วยฟื้นคืนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยทุกคนให้ดีและมีความใกล้เคียงกับปกติมากขึ้นไปได้พร้อม ๆ กัน

โดยในวันนี้ Meticuly จะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเรื่องราวอันน่าทึ่งของการออกแบบและผลิตวัสดุทดแทนกระดูกอย่างกะโหลกเทียมไทเทเนียม ที่ได้มีการนำเอา “เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ” เข้ามาเป็นตัวช่วยในการประมวลผลและการจำลองรูปแบบกะโหลกศีรษะส่วนที่ขาดหายไปของผู้ป่วยขึ้นมาใหม่ เพื่อประโยชน์ในการช่วยทำให้ชิ้นงานกะโหลกเทียมไทเทเนียมที่ถูกผลิตขึ้นมานั้นมีความเหมาะสมและสามารถเข้ากันได้ดีกับสรีระร่างกายของผู้ป่วยที่จะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคลได้มากที่สุด

กว่าจะมาเป็นกะโหลกเทียมไทเทเนียม

ในปัจจุบันนี้ กะโหลกเทียมไทเทเนียม เป็นวัสดุทดแทนกระดูกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย เพื่อการช่วยทดแทนกะโหลกศีรษะเดิมของมนุษย์ที่ไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองหรือถูกสร้างขึ้นมาใหม่ได้ในกรณีที่แผ่นกะโหลกศีรษะได้รับความเสียหายจากการประสบอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งและเนื้องอก รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดสมอง (Stroke) โดยแรกเริ่มเดิมทีก่อนที่จะมีการเลือกใช้กะโหลกเทียมไทเทเนียมนั้น ทีมแพทย์ส่วนใหญ่มักจะนิยมเลือกนำเอาวัสดุทดแทนกระดูกอย่าง ซีเมนต์กระดูก (Bone Cement)หรืออะคริลิก มาใช้ในการปั้นขึ้นรูปเป็นแผ่นกะโหลกผ่านการคาดคะเนด้วยมือและสายตา

ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาคือ กะโหลกศีรษะที่ได้ออกมามักจะมีรูปทรงที่ ไม่ได้พอดีกับผู้ป่วย มีความนูนสูง-ต่ำที่ไม่เท่ากันจนส่งผลทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของกะโหลกศีรษะไม่สวยงามเหมือนรูปทรงของศีรษะเดิม ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อความสวยงามรวมถึงสภาพจิตใจและความมั่นใจในการใช้ชีวิตของผู้ป่วยแล้ว ยังอยากส่งผลให้เกิดอาการแทรกซ้อนหลังผ่าตัดที่อาจนำไปสู่การผ่าตัดแก้ไขในอนาคต

เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติกับกะโหลกเทียมไทเทเนียม

เพื่อเป็นการช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในการใช้งานกะโหลกเทียมจากซีเมนต์กระดูกหรือวัสดุอื่น ๆ ในการผ่าตัดปิดกะโหลกศีรษะให้กับผู้ป่วย และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นฟูร่างกายจนสามารถกลับมาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ตามปกติอีกครั้ง ทีมแพทย์และทีมวิศวกรรมผู้เชี่ยวชาญของ Meticuly จึงได้เริ่มต้นศึกษาและเลือกนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่าง “เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ หรือ 3D Printing” มาประยุกต์ใช้ในการจำลองรูปแบบของกะโหลกศีรษะผู้ป่วย จนทำให้ Meticuly กลายมาเป็นบริษัทผู้ผลิตกระดูกเทียมไทเทเนียมและกะโหลกเทียมไทเทเนียมรายแรกของประเทศไทย ที่สามารถผลิตกะโหลกเทียมไทเทเนียมสำหรับผู้ป่วยแต่ละบุคคลขึ้นมาได้อย่างสวยงามตามสรีระเดิม และมีประสิทธิภาพในการช่วยปกป้องเนื้อสมองให้ปลอดภัยจากการกระทบกระเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

การใช้งานเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติเพื่อการออกแบบกะโหลกเทียมไทเทเนียม

เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) คือ เทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ในการสร้างโมเดลดิจิทัลและกระบวนการขึ้นรูปวัตถุ 3 มิติ ผ่านการเพิ่มเนื้อวัสดุเข้าไปทีละชั้น (Additive Manufacturing : AM) ภายใต้การควบคุมของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อการได้มาซึ่งชิ้นงานกะโหลกเทียมไทเทเนียมต้นแบบที่สามารถออกแบบและใส่รายละเอียดต่าง ๆ ลงไปในชิ้นงานได้อย่างหลากหลายและมีความสมจริงมากกว่าการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ในรูปแบบอื่น ๆ

โดยในการใช้งานเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติเพื่อการออกแบบกะโหลกเทียมไทเทเนียมนั้น ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการตรวจด้วยเครื่องเอ๊กซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติ (3D CT-scan Brain) ตามที่ CT protocol ของ Meticuly ได้มีการกำหนดเอาไว้ เพื่อการได้มาซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับกะโหลกศีรษะของผู้ป่วย ที่ทางทีมแพทย์และทีมวิศวกรของ Meticuly จะสามารถนำมาใช้ในการคำนวณและประมวลผลร่วมกับการใช้เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) เพื่อการออกแบบและจำลองกะโหลกศีรษะในส่วนที่ขาดหายไปของผู้ป่วยขึ้นมาใหม่ เพื่อช่วยทำให้กะโหลกเทียมไทเทเนียมสามารถทดแทนชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะของผู้ป่วยที่เกิดการเสียหายไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ซึ่งหลังจากที่ได้มีการออกแบบร่วมกับประสาทศัลยแพทย์ และสร้างแบบจำลองของกะโหลกเทียมไทเทเนียมขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ทางทีมงานของ Meticuly จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ในการสั่งงานเครื่องพิมพ์ 3D Printer ให้ทำการขึ้นรูปชิ้นส่วนแม่พิมพ์กะโหลกเทียมไทเทเนียม ก่อนที่จะนำเอาผงโลหะไทเทเนียมซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้สำหรับการผลิตกะโหลกเทียมไทเทเนียมมาขึ้นรูปผ่านกระบวนการพิมพ์สามมิติ เพื่อผลิตขึ้นรูปเป็นกะโหลกเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลที่พร้อมสำหรับการนำมาใช้ในกระบวนการผ่าตัดปิดกะโหลกศีรษะในทันที

ประสิทธิภาพในการใช้งานกะโหลกเทียมไทเทเนียมที่ผ่านการออกแบบด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ

การใช้งานกะโหลกเทียมไทเทเนียมที่ถูกออกแบบขึ้นมาให้มีความสมมาตรเสมือนจริง รวมถึงมีความต่ำ ความสูง และลักษณะรอยหยักที่ได้รับการตรวจสอบแล้วว่ามีความแม่นยำทั้งในด้านของขนาดและองศาต่าง ๆ ที่สามารถเข้ากันกับสรีระร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคนที่จะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างดีที่สุด เป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถช่วยย่นระยะเวลาการผ่าตัด ตลอดจนสามารถช่วยลดการสูญเสียเลือดในระหว่างการผ่าตัดและลดภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นภายหลังจากการผ่าตัดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นแล้วผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดปิดกะโหลกศีรษะด้วยกะโหลกเทียมไทเทเนียมจึงสามารถฟื้นตัว รวมถึงสามารถกลับมาดูแลและช่วยเหลือตัวเองในการทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้การเลือกใช้งานกะโหลกเทียมไทเทเนียมที่ถูกออกแบบและผลิตขึ้นรูปมาอย่างประณีตเฉพาะบุคคลยังสามารถช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ป่วยได้มากยิ่งขึ้น ด้วยรูปทรงของกะโหลกศีรษะใหม่ที่จะมีความสวยงามและตรงตามสรีระเดิมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และอีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญของการเลือกใช้งานกะโหลกเทียมไทเทเนียม คือ กะโหลกเทียมไทเทเนียมเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงมากกว่าวัสดุทดแทนกระดูกประเภทอื่น ๆ อย่างเช่น พอลิเมอร์ หรือเซรามิก แต่ทว่ามีน้ำหนักเบาและมีความหนาเพียงแค่ 0.5 มิลลิเมตร อีกทั้งกะโหลกเทียมไทเทเนียมของ Meticuly ยังสามารถผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ ทำ CT, X-ray, MRI และการฉายแสงหลังการผ่าตัดได้ เพราะฉะนั้นแล้วผู้ป่วยทุกคนจึงสามารถไว้วางใจถึงประสิทธิภาพในการใช้งาน และความสามารถของกะโหลกเทียมไทเทเนียมที่ผ่านการออกแบบด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติของ Meticuly ได้อย่างแท้จริง

Meticuly คือ บริษัทผู้ผลิตวัสดุทดแทนกระดูกอย่าง กระดูกเทียมไทเทเนียม และกะโหลกเทียมไทเทเนียมรายแรกของประเทศไทย ที่เป็นเจ้าของการออกแบบและกระบวนการผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO และ USFDA ซึ่งเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจให้กับแพทย์และผู้ป่วยทุกท่านได้ว่า สิ่งที่ท่านได้รับจะเป็นกระดูกเทียมไทเทเนียมและกะโหลกเทียมไทเทเนียมจากฝีมือคนไทยที่มีคุณภาพสูงสุดในระดับสากล และเป็นทางเลือกในการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยที่มีความต้องการใช้งานวัสดุทดแทนกระดูกอย่างแท้จริง

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ :
บริษัท เมติคูลี่ จำกัด
Email : [email protected]
Facebook : meticuly
LinkedIn : meticuly
Line : @meticuly
โทรศัพท์ : 02 334 0539

Share This

Copy Link to Clipboard

Copy