นวัตกรรมกะโหลกเทียมไทเทเนียม ของ เมติคูลี่

ช่วยลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดและช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนปกติ

หนึ่งความภาคภูมิใจ…

เมื่อวันหนึ่ง สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น พร้อมหรือไม่

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ต้องทำการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 

คุณเบญจวรรณ หญิงวัย 33 ปี เป็นหนึ่งในคนที่เข้ารับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะและปิดด้วยแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียม เธอมาบอกเล่าถึงประสบการณ์เข้ารับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ เธอเล่าว่า…

ในช่วงปี 2554 กะโหลกศีรษะนูนขึ้นมา ซึ่งในตอนแรกเข้าใจว่าเป็นอาการนูนจากการเดินชนปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การนูนไม่ยุบลง จนกระทั่งในปี 2562-2563 เวลาที่ถ่ายรูป เธอเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ รู้สึกว่าบริเวณศีรษะและหน้าผากผิดรูป เบี้ยว และนูนอย่างเห็นได้ชัด โดยในช่วงเวลานั้นเธอได้เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี จึงแจ้งข้อสงสัยนี้ให้กับคุณหมอทราบ ทำการตรวจ และพบว่าเธอเป็นเนื้องอก

อาการของโรค ทำให้เธอมีอาการเจ็บศีรษะจี๊ด ๆ ตรงบริเวณที่นูนขึ้นมา และยังมีอาการปวดศีรษะอยู่บ่อยครั้ง นิดหน่อยก็ปวดหัวแล้ว ซึ่งในบางครั้งก็กระทบกับความรู้สึกของเธอว่า “ร่างกายเราอ่อนไหวง่ายจัง”   และที่สำคัญ เวลาที่เธอออกไปใช้ชีวิต พบปะผู้คน มักจะมีผู้คนถามถึงลักษณะที่ผิดรูปของบริเวณกะโหลกศีรษะอยู่บ่อยครั้งด้วยคำถามที่ส่งผลให้เธอกังวลอยู่เสมอ ๆ ว่า “ทำไมกะโหลกเรามันนูนขึ้นมา ทำไมมีความผิดปกติบนใบหน้า” และเกิดความกลัวในจิตใจว่า “เราจะเป็นอะไรหรือเปล่า มันจะลามมาบริเวณลูกตา หรือว่าลามเพิ่มอีก” ซึ่งสิ่งเหล่านี้กระทบต่อความกังวลใจ และสร้างความไม่มั่นใจในตัวเองของเธอเป็นอย่างมากที่เธอจะต้องใช้ชีวิตร่วมกับโรคนี้ เธอจึงได้ทำการรักษา ตรวจติดตามอาการ และเปลี่ยนโรงพยาบาลที่รักษา

 

รู้จักกะโหลกเทียมไทเทเนียมเมื่อรู้ว่าต้องผ่าตัดเปิดกะโหลก

จนได้มารับการรักษากับรศ.นพ.กิดากร กิระนันทวัฒน์ ศัลยแพทย์ตกแต่ง และรศ.นท.ดร.นพ.สรยุทธ ชำนาญเวช  ประสาทศัลยแพทย์ รพ.รามาธิบดี คุณหมอได้แจ้งว่าเธอเป็นโรคเนื้องอกบริเวณเยื่อหุ้มสมอง และต้องผ่าตัดเพื่อนำเนื้องอกที่ทำให้กะโหลกศีรษะผิดรูปออก และต้องใส่กะโหลกเทียมเพื่อทดแทนกะโหลกที่เสียไป เธอบอกเล่าถึงความรู้สึกในตอนแรกว่า “กลัวมาก และแจ้งคุณหมอไปว่าขอใส่กะโหลกเดิมได้ไหม ไม่กล้าที่จะใส่วัสดุอื่น เพราะกลัวว่ามันจะเข้ากับตัวเราไหม เข้ากับร่างกายเราไหม” ซึ่งคุณหมอได้ให้คำแนะนำว่ากะโหลกเทียมไทเทเนียมมีข้อดีคือลดโอกาสในการติดเชื้อ ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลแล้วก็นำมาศึกษาต่อ เธอบอกเล่าความรู้สึกว่า  “บอกตรงๆ ตอนแรกก็ไม่มั่นใจ” เธอได้ศึกษาหาข้อมูล และสอบถามจากโรงพยาบาลอื่น ประกอบกับมีคนรู้จักที่ใส่โลหะดามกระดูกเทียมไทเทเนียมที่แขน จึงไปสอบถามและได้คำตอบมาว่า “เค้าก็ใช้ชีวิตปกติได้ แบบ 10-20 ปี” 

จนในที่สุดเธอตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดด้วยแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียม ด้วยความหวังว่า “ต้องการให้กะโหลกศีรษะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”

คุณหมอได้ติดต่อมาที่บริษัท เมติคูลี่ จำกัด เพื่อให้ออกแบบและผลิตแผ่นปิดกะโหลกศีรษะเทียมไทเทเนียมที่เข้ากับรูปทรงกะโหลกศีรษะของคุณเบญจวรรณโดยเฉพาะ และได้นำเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) เข้ามาช่วยในกระบวนการออกแบบและผลิตทั้งหมดสำหรับการผ่าตัด รวมถึงอุปกรณ์ที่ช่วยในการผ่าตัดเนื้องอกออกด้วย ซึ่งวิธีการนี้ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น  ทำให้การปิดกะโหลกเทียมเป็นไปอย่างง่ายดาย และยังช่วยลดระยะเวลา รวมถึงลดความเสี่ยงในการผ่าตัด 

หลังการผ่าตัดเปิดกะโหลกและปิดด้วยกะโหลกเทียมไทเทเนียม

 ภายหลังการผ่าตัด คุณเบญจวรรณเล่าให้ฟังว่า “อาการปกติ สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ อาการปวดหัวไม่มีแล้ว ไม่ได้ปวดหัวง่ายแล้ว ผู้คนที่เคยทักถึงความผิดปกติ ลักษณะนูน เบี้ยวบริเวณกะโหลกศีรษะก็ไม่ทักเรื่องกะโหลกศีรษะแล้ว  พร้อมทั้งดูไม่ออกเลยว่าไปผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะมา” พร้อมทั้งเล่าต่อไปว่า “เราสามารถทำทรงผมได้เหมือนเดิม เมื่อก่อนต้องคอยทำทรงผมปิด รวมถึงยังสามารถใส่หมวกกันน็อก เวลานั่งรถจักรยานยนต์ได้ จากที่เมื่อก่อนไม่สามารถใส่ได้ เพราะความนูนบริเวณกะโหลกศีรษะ”

เรื่องราวประสบการณ์การเข้ารับการผ่าตัดเปิดและปิดกะโหลกศีรษะด้วยแผ่นปิดปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมของคุณเบญจวรรณ  เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายที่ช่วยให้คุณเบญจวรรณกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ปกติสุขดังเดิม สร้างความสุขกาย สบายใจ จากเดิมที่ก่อนการผ่าตัดเกิดความไม่สบายทางร่างกาย ปัญหาสุขภาพมาพร้อมกับความไม่สบายทางจิตใจในการดำรงชีวิตประจำวันและหลังการผ่าตัดจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ความไม่สบายทางร่ายกายหายไป และทำให้ความสุขทางใจกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง  ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งในบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์การผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพระหว่างการทำงานร่วมกันของทีมแพทย์และบริษัท      รวมไปถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์กะโหลกเทียมไทเทเนียมที่ใช้ในการผ่าตัดครั้งนี้…