จากเทคโนโลยี สู่นวัตกรรมการผลิตกระดูกเทียมไทเทเนียมทางการแพทย์

กระดูกเทียมไทเทเนียม

เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์สามมิติสู่นวัตกรรมทางการแพทย์ศัลยกรรม กระดูกเทียมที่เป็นมากกว่าวัสดุเทียมจากเครื่องพิมพ์สามมิติ

โลกของเรามีการหมุนไปข้างหน้าทุกวัน เช่นเดียวกันเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้งจนทำให้เทคโนโลยีได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของมนุษย์ทุกคน และเป็นส่วนหนึ่งของวงการแพทย์มาอย่างช้านาน โดยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) หรือ เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติขั้นสูง (Additive manufacturing) ถือได้ว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้ทีมแพทย์สามารถก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดทางด้านการแพทย์ และสามารถผลิตอวัยวะเทียม หรือกระดูกเทียมไทเทเนียม ขึ้นมาใหม่เพื่อช่วยในการทดแทนกระดูกที่ต้องสูญเสียไปจากการเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรง หรือการเจ็บป่วยที่รุนแรง อย่างเช่น การเกิดเนื้องอก หรือมะเร็งกระดูก และช่วยให้ผู้ป่วยหายจากการอาการบาดเจ็บและสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง

จากเทคโนโลยีสู่นวัตกรรมการผลิตกระดูกเทียมไทเทเนียมทางการแพทย์

เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI)

เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์ เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อการช่วยแบ่งเบาภาระงานให้กับทีมแพทย์และพยาบาล รวมไปถึงการช่วยลดต้นทุนในการตรวจวินิจฉัยโรค และช่วยพลิกโฉมให้การให้บริการด้านการแพทย์เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ และมีความชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้เทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) ได้ถูกนำมาใช้งานร่วมกับเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย เพื่อการวิเคราะห์ผลการตรวจโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับการออกแบบและพัฒนากระดูกเทียมไทเทเนียม ที่ได้มีการนำเอาเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) เข้ามาประยุกต์ใช้งานร่วมกับการตรวจวินิจฉัยและวิเคราะห์ผล CT-scan ของผู้ป่วย เพื่อช่วยให้ทีมแพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ป่วย และข้อมูลการรักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้แบบ real-time จากทุกที่บนโลก เพื่อการตรวจวินิจฉัยโรคและประเมินความรุนแรงของอาการเจ็บป่วยได้อย่างรวดเร็ว และนอกจากนี้การมีเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) ยังช่วยให้ทีมแพทย์สามารถวางแผนถึงขั้นตอนและวิธีในการผ่าตัดรักษากระดูกที่เกิดการเสียหาย หรือถูกทำลายจากการเกิดเนื้องอก มะเร็งกระดูก หรืออุบัติเหตุที่รุนแรง ด้วยการใช้กระดูกเทียมไทเทเนียมได้อย่างทันท่วงที

โดยเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) จะช่วยให้ทีมแพทย์และทีมวิศวกรสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการวิเคราะห์และออกแบบชิ้นส่วนกระดูกเทียมไทเทเนียมให้มีขนาดที่เหมาะสม และสามารถเข้ากันกับสรีระร่างกายที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาพยาบาล และช่วยเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการรักษาจากการ วางแผนก่อนการผ่าตัดที่แม่นยำ และนอกจากนี้ยังเป็นการช่วยให้กระบวนการในการผ่าตัดเพื่อปลูกถ่ายกระดูกเทียมไทเทเนียมเป็นไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งจะส่งผลต่อการที่ผู้ป่วยจะสูญเสียเลือดในระหว่างการผ่าตัดน้อยลง และสามารถฟื้นตัวหลังจากเข้ารับการผ่าตัดได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น พร้อมทั้งยังสามารถทำการขยับ เคลื่อนไหว หรือใช้งานอวัยวะที่มีการปลูกถ่ายกระดูกเทียมไทเทเนียมเข้าไปได้อย่างสมบูรณ์แบบใกล้เคียงกับการใช้งานกระดูกจริง ๆ มากที่สุด

กระดูกเทียมไทเทเนียม

เทคโนโลยี Selective Laser Melting (SLM)

เทคโนโลยีด้านการพิมพ์เป็นเทคโนโลยีที่อยู่คู่กับมนุษย์เรามาอย่างช้านาน และถูกปรับปรุงพัฒนาให้มีความก้าวหน้าและทันสมัยมากขึ้นเรื่อย ๆ จากที่เดิมทีมนุษย์เราเคยมีเพียงแค่เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 2 มิติ ที่ใช้สำหรับการพิมพ์ภาพลงมาบนกระดาษหรือวัตถุที่ต้องการเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้เรากลับสามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานที่มีความตื้น ลึก หนา บาง แบบเสมือนจริงขึ้นมาได้ ผ่านเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติขั้นสูงที่ทันสมัย หรือ Additive manufacturing ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราสามารถออกแบบและสร้างโมเดลสถาปัตยกรรม งานศิลปะ รูปปั้น ข้าวของเครื่องใช้ หรือเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายขึ้นมาได้เท่านั้น แต่เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติขั้นสูงยังช่วยให้เราสามารถผลิตกระดูกเทียมไทเทเนียมขึ้นมา เพื่อใช้ทดแทนกระดูกจริง ๆ ของมนุษย์ ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาทดแทนได้ในกรณีที่กระดูกเกิดการแตกหักหรือเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ หรือการเกิดเนื้องอกและมะเร็งกระดูกที่รุนแรง

โดยเทคโนโลยี Selective Laser Melting (SLM) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติขั้นสูง ที่ถูกเลือกนำมาใช้ในการขึ้นรูปกระดูกเทียมไทเทเนียม ที่ผ่านการออกแบบโดยทีมแพทย์และทีมวิศวกรที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญทั้งในด้านของวิศวกรรมและการแพทย์เป็นอย่างดี ด้วยการใช้เลเซอร์พลังงานสูง (SLM) หรือลำแสงอิเล็กตรอน (EBM) ในการหลอมละลายผงโลหะไทเทเนียม เพื่อให้ได้เป็นกระดูกเทียมไทเทเนียมในรูปแบบต่าง ๆ ที่มีความแข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย น้ำหนักเบา และสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดอายุขัยของมนุษย์

นอกจากนี้กระดูกเทียมไทเทเนียมที่ถูกผลิตขึ้นมาเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติขั้นสูง ยังเป็นชิ้นงานที่มีความถูกต้อง และมีความแม่นยำทั้งในด้านของขนาด องศา รวมไปถึงฟังก์ชันในการใช้งานที่มีความใกล้เคียงกันกับกระดูกของมนุษย์จริง ๆ มากที่สุด อีกทั้งกระดูกเทียมที่ถูกผลิตขึ้นมาด้วยวัสดุประเภทไทเทเนียมยังเป็นวัสดุที่มีความเหมาะสมอย่างมากในการนำมาใช้งานภายในร่างกายของมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย และยังช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อที่อาจนำไปสู่การเกิดอาการปวด บวมแดง หรืออักเสบ ที่บริเวณเนื้อเยื่อโดยรอบที่มีการปลูกถ่ายกระดูกเทียมลงได้

กระดูกเทียมไทเทเนียม

กระดูกเทียมไทเทเนียม กระดูกเทียมที่เป็นมากกว่าวัสดุเทียมจากเครื่องพิมพ์สามมิติ

แม้ว่าการผลิตกระดูกเทียมไทเทเนียมทางการแพทย์ จะได้ชื่อว่าเป็นการผลิตชิ้นส่วนของวัสดุทดแทนกระดูก หรือกระดูกเทียม “แบบสำเร็จรูป” ที่สามารถนำมาปลูกถ่ายเข้าไปกับร่างกายของผู้ป่วยเพื่อการทดแทนกระดูกที่แตกหักหรือเสียหายได้ในทันที แต่เบื้องหลังของการผลิตกระดูกเทียมไทเทเนียมแบบสำเร็จรูปนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่การขึ้นรูปกระดูกเทียมไทเทเนียมขึ้นมาด้วยการใช้เทคโนโลยี Selective Laser Melting (SLM) หรือเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติขั้นสูง ที่ถือได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของการพิมพ์ชิ้นงานสามมิติ แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เพราะในการออกแบบและผลิตกระดูกเทียมไทเทเนียมขึ้นมาแต่ละชิ้นนั้น จำเป็นจะต้องใช้ความรู้ทั้งในด้านของศาสตร์และศิลป์มากมาย ในการคิด ออกแบบ และวางแผนการสร้างกระดูกไทเทเนียมประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กระดูกเทียมไทเทเนียมสำหรับกะโหลกศีรษะ กระดูกใบหน้า กระดูกเบ้าตา กระดูกข้อศอก กระดูกนิ้วมือ กระดูกไหปลาร้า หรือแผ่นโลหะดามกระดูกขากรรไกรล่าง ซึ่งถือได้ว่าเป็นชิ้นส่วนกระดูกที่มีความซับซ้อนและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่บุคคลมากที่สุด เพื่อช่วยให้ได้กระดูกเทียมไทเทเนียมที่มีความถูกต้องและแม่นยำสูง และสามารถเข้ากันกับสรีระร่างกายของผู้ป่วย รวมถึงกระดูก เส้นเอ็น เส้นประสาท และเส้นเลือดต่าง ๆ ที่อยู่ในบริเวณโดยรอบพื้นที่ที่ต้องการจะปลูกถ่ายกระดูกเทียมไทเทเนียมได้อย่างดีที่สุด

นอกจากนี้ในการผลิตกระดูกเทียมไทเทเนียมยังจำเป็นที่จะต้องคงไว้ซึ่งความสามารถในการใช้งานของกระดูกในบริเวณนั้น ๆ ให้มีความใกล้เคียงกับการใช้งานกระดูกของมนุษย์จริง ๆ มากที่สุด เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้งานกระดูกเทียมไทเทเนียมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด เพื่อให้การสร้างกระดูกเทียมไทเทเนียมไม่ได้เป็นเพียงแค่การสร้างกระดูกเทียมขึ้นมาจาก

นวัตกรรมเครื่องพิมพ์สามมิติที่ทันสมัยเท่านั้น แต่เพื่อให้การสร้างกระดูกเทียมไทเทเนียมเป็นการสร้างกระดูกเทียม ที่ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการรักษากระดูกที่เสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ หรือการเกิดโรคที่ร้ายแรง สำหรับผู้ป่วยอย่างแท้จริง

กระดูกเทียมไทเทเนียม

Meticuly คือ บริษัทผู้ผลิตกระดูกเทียมไทเทเนียมรายแรกของประเทศไทย ที่เป็นเจ้าของการออกแบบและกระบวนการผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO และ USFDA ซึ่งเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจให้กับแพทย์และผู้ป่วยทุกท่านได้ว่า สิ่งที่ท่านได้รับเป็นกระดูกเทียมไทเทเนียมจากฝีมือคนไทยที่มีคุณภาพสูงสุดในระดับสากล และเป็นทางเลือกในการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยอย่างแท้จริง

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ :
บริษัท เมติคูลี่ จำกัด
Email : [email protected]
Facebook : meticuly
LinkedIn : meticuly
Line : @meticuly
โทรศัพท์ : 02 334 0539

Share This

Copy Link to Clipboard

Copy